สกุลเงิน
ภาษา
ตะกร้าสินค้า

พายุ เคลื่อนตัวเข้าไทย ลูกที่ 4 ระดับโซนร้อน หนักสุดพลังมาก 18-20 ต.ค.

หมวดหมู่: ข่าวสารอัพเดต
จากผลกระทบหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ทำให้หลายพื้นที่บริเวณภาคอีสานตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลัน โดยเฉพาะพื้นที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ได้มีน้ำป่าจากเขาใหญ่ ไหลหลากทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และรีสอร์ต รวมถึงพื้นที่เศรษฐกิจกลางตัวเมืองปากช่อง ได้รับความเสียหายหนักสุดในรอบ 20 ปี
 
ก่อนหน้านั้น "รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์" ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้ออกมาเตือนฝนตกหนัก ให้เฝ้าระวังหลายพื้นที่จะเกิดน้ำท่วม ตั้งแต่วันที่ 9 ต.ค.เป็นต้นไป รวมถึงวันที่ 14 ต.ค. จะเกิดพายุโซนร้อน โดยภาคอีสาน จะได้รับผลกระทบอย่างหนัก
 
ส่วนสถานการณ์สภาพอากาศล่าสุด "รศ.ดร.เสรี" เปิดเผยกับ "ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์" ระบุว่า ขณะนี้มีความน่ากังวล เนื่องจากพื้นที่ฝนตกหนักได้กระจายวงกว้าง และที่ผ่านมาไม่ทราบว่าหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ประเมินกันอย่างไร อย่างกรณี "น้ำท่วม" ในพื้นที่อ.ปากช่อง เคยเตือนมาแล้ว อีกทั้งไทยไม่เคยเจอพายุเข้ามามากถึง 3 ลูกภายใน 1 สัปดาห์ โดยจะเริ่มส่งผลกระทบต่อไทย ตั้งแต่วันที่ 12-19 ต.ค.
 

สิ่งที่ออกมาเตือนฝนตกหนักในช่วงสัปดาห์นี้ เริ่มจากพายุโซนร้อนลูกแรก “หลิ่นฟา” มาจากเวียดนามเข้าไทย ตามมาด้วยพายุลูกที่ 2 ซึ่งมาจากเกาะไหหลำ ประเทศจีน จะเข้ามาไทยในวันที่ 14 ต.ค.นี้ และลูกที่ 3 จะก่อให้เกิดลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ เข้าฝั่งทะเลอันดามันของไทย ให้ระวังพื้นที่ภาคใต้ในอีก 2-3 วันข้างหน้า จะเกิดน้ำท่วม และยังไม่รวมพายุลูกที่ 4 ถือว่าหนักมาก จะเคลื่อนผ่านประเทศฟิลิปปินส์ในวันที่ 16 ต.ค.นี้ คาดว่าจะเข้าไทยช่วงวันที่ 18-20 ต.ค. ซึ่งมีพลังมากกว่าพายุลูกอื่นๆ

อย่างไรก็ตามในอีก 2-3 วันข้างหน้า ต้องรอดูว่าพายุลูกที่ 4 ซึ่งน่าจะเป็นพายุโซนร้อนขึ้นไป จะเข้าพื้นที่ใดในประเทศไทย อาจเป็นพื้นที่ที่อยู่ต่ำกว่าทางตอนใต้ของเวียดนาม คาดว่าเป็นพื้นที่ภาคอีสาน ภาคใต้ และภาคตะวันออกของไทย ส่วนพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบไปก่อนหน้านี้แล้วก็จะหนักมากขึ้น ซึ่งน่าเป็นห่วง อ.ปากช่อง โดยหลังจากวันที่ 20 ต.ค. จะต้องประเมินสัปดาห์ต่อสัปดาห์ และเนื่องจากปีนี้เป็นปีลานีญา กำลังไต่ระดับสูง มีความรุนแรงมากขึ้น จะก่อให้เกิดความชื้นมากขึ้น ดังนั้นในเดือนต.ค.และ พ.ย. จะเกิดพายุอย่างต่อเนื่อง

“แสดงว่าภาคใต้ มีความน่ากังวลมากที่สุด ในช่วงหลังปลายเดือนตุลาคม อีกอย่างเป็นช่วงฤดูฝนของภาคใต้ จึงต้องเฝ้าระวังให้มาก และพื้นที่กรุงเทพฯ จะโดนผลกระทบพายุลูกที่ 4 หรือไม่นั้น ไม่สามารถพยากรณ์ในระยะยาวได้ ต้องดูในช่วง 3 วัน ก่อนพายุเข้ามา และขึ้นอยู่กับเรดาร์น้ำฝน ซึ่งจะชัดเจนกว่า”

นอกจากนี้ได้แสดงความกังวลว่าพื้นที่ตัวเมืองนครราชสีมา จะได้รับผลกระทบหนัก เนื่องจากขณะนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนลำพระเพลิง ได้เกินจุดวิกฤติแล้ว และลำตะคอง มีปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้น หากฝนตกท้ายเขื่อนอีก จะต้องระวังพื้นที่ตัวเมืองนครราชสีมา ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมซ้ำรอยปี 2553 โดยพายุอีก 3 ลูกที่จะเข้ามาในสัปดาห์นี้ ยังไม่ทราบว่าฝนจะตกเหนือเขื่อน หรือตกท้ายเขื่อน หากตกเหนือเขื่อนจะสามารถรับมือได้ ยกเว้นฝนตกท้ายเขื่อน จะแย่หนักอย่างแน่นอน

ขณะที่ภาคเหนือ จะเริ่มมีฝนตกน้อยลง กำลังเข้าสู่สภาพอากาศหนาวเย็น ซึ่งปีนี้อากาศจะหนาวเย็นไม่มากเท่ากับปีที่ผ่านมา โดยอุณหภูมิไม่ต่ำกว่าปกติ ไม่เกิน 0.5 องศาเซลเซียส เนื่องจากภาวะโลกร้อนที่ร้อนมากขึ้น และปีนี้อากาศหนาวยาวนานไปถึงเดือน ก.พ. ซึ่งไม่หนาวเย็นจนเกินไป เรียกว่า "อากาศดี"

 
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1950265...
Cr.ไทยรัฐทีวี

14 ตุลาคม 2563

ผู้ชม 818 ครั้ง

Engine by shopup.com